กลุ่มอุตสาหกรรม ทรัพยากร
หมวดธุรกิจ พลังงานและสาธารณูปโภค
วันที่เข้าซื้อขายวันแรก 04 เม.ย. 2545
รายละเอียดเกี่ยวกับทุน
ราคาพาร์ 1.00 บาท
หุ้นสามัญ
ทุนจดทะเบียน 509,998,044.00 บาท
ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 509,997,325.00 บาท
หุ้นบุริมสิทธิ
ทุนจดทะเบียน -
ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว -
รายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนหุ้น
หุ้นสามัญ
จำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลท. 509,997,325 หุ้น
จำนวนหุ้นชำระแล้ว 509,997,325 หุ้น สิทธิออกเสียง 1 : 1
จำนวนหุ้นซื้อคืน -
จำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง หัก หุ้นซื้อคืน
ณ วันที่ 24 ม.ค. 2555 509,997,325 หุ้น
ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2554 509,997,325 หุ้น
หุ้นบุริมสิทธิ
จำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลท. -
จำนวนหุ้นซื้อคืน -
จำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง หัก หุ้นซื้อคืน
ณ วันที่ 24 ม.ค. 2555 -
ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2554 -
นโยบายเงินปันผล
ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล สำรองตามกฎหมาย และสำรองอื่นๆในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 โดยคำนวณจากกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะของบริษัทฯ (โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติม)
ผู้ถือหุ้นใหญ่

ลักษณะการประกอบธุรกิจ
ภาพรวมการประกอบธุรกิจของบริษัท บริษัทย่อย และบริษัทร่วม
บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 509.998 ล้านบาท และเรียกชำระแล้ว 509.997 ล้านบาท โดยบริษัทก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2526 ด้วยทุนจดทะเบียน 80 ล้านบาท โดยคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ดำเนินการตามความเห็นและมติสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในการจัดตั้งโครงการเติมน้ำมันอากาศยาน ปัจจุบัน บริษัทเป็นบริษัทเดียวที่ได้รับสิทธิจากรัฐบาลไทยในการดำเนินธุรกิจจัดเก็บ และให้บริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงแก่อากาศยานทุกประเภทและทุกเที่ยวบิน ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยบริษัทให้บริการเชื้อเพลิงการบินอย่างครบวงจรทั้ง 3 ระบบ คือ ระบบคลังน้ำมันอากาศยานระบบส่งน้ำมันอากาศยานผ่านท่อฯ และระบบเติมน้ำมันอากาศยาน โดยมีลูกค้าหรือผู้ว่าจ้างเติมน้ำมัน คือ บริษัทผู้ค้าน้ำมันต่างๆ ที่ขายน้ำมันอากาศยานให้แก่สายการบิน โดยบริษัทมีการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยาน 2 ประเภท คือ น้ำมันอากาศยานสำหรับเครื่องบินไอพ่น (JET A-1) และน้ำมันอากาศยานสำหรับเครื่องบินลูกสูบ (AVGAS)
เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2549 ได้มีการย้ายท่าอากาศยานนานาชาติของไทยจากท่าอากาศยานดอนเมืองไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยบริษัทและบริษัทย่อยได้ให้บริการเชื้อเพลิงการบินอย่างครบวงจรทั้ง 3 ระบบเช่นเดียวกับที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ต่อมาคณะรัฐมนตรีมีมติให้เปิดใช้ท่าอากาศยานดอนเมืองควบคู่กับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในวันที่ 25 มีนาคม 2550 เนื่องจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีปัญหารอยแตกร้าวของรันเวย์และแท็กซี่ เวย์ อีกทั้งเป็นการช่วยลดความแออัดของการใช้บริการอากาศยานที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเป็นการให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศบางส่วนที่ไม่มีการต่อเครื่อง และการให้บริการของสายการบินต้นทุนต่ำ จากนั้นในวันที่ 29 มีนาคม 2552 บมจ.การบินไทย ได้ย้ายเที่ยวบินภายในประเทศจากท่าอากาศยานดอนเมืองกลับมารวมไว้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพียงแห่งเดียว ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามนโยบายสนามบินเดียวของภาครัฐ
นอกจากนี้ บริษัทได้ให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานสำหรับเครื่องบินไอพ่นให้แก่สายการบินบางกอกแอร์เวย์ ณ ท่าอากาศยานภูมิภาค 2 แห่ง คือ ท่าอากาศยานสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และท่าอากาศยานสุโขทัย โดยบริษัทได้รับสัญญาอนุญาตให้ดำเนินการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานจากบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด โดยระยะเวลาการให้ดำเนินการ 12 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2543 ถึง 2554 และเมื่อครบอายุสัญญาแล้ว อาจทำการขยายระยะเวลาของสัญญาต่อไปได้อีกครั้งละ 5 ปี
บริษัทมีการประกอบธุรกิจผ่านบริษัทย่อย และบริษัทที่เกี่ยวข้องดังนี้
1. บริษัท ไทยเชื้อเพลิงการบิน จำกัด
ถือเป็นบริษัทย่อย ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2539 โดย ณ 31 ธันวาคม 2553 มีทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้ว 530 ล้านบาท และปัจจุบันโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ประกอบด้วย บริษัทซึ่งถือหุ้นในอัตราร้อยละ 90 และ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ซึ่งถือหุ้นในอัตราร้อยละ 10
บริษัท ไทยเชื้อเพลิงการบิน จำกัด ประกอบธุรกิจให้บริการเชื้อเพลิงอากาศยานเช่นเดียวกับบริษัท และเป็นผู้ได้รับสัมปทานในการดำเนินการให้บริการระบบส่งน้ำมันอากาศยานผ่านท่อฯ ในบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจาก ทอท. เป็นระยะเวลา 30 ปี โดยอายุสัมปทานจะเริ่มนับตั้งแต่วันแรกที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเริ่มเปิดให้บริการ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนการได้รับสัมปทานในการดำเนินการให้บริการระบบส่งน้ำมันอากาศยานผ่านท่อฯ ณ ท่าอากาศยานสุวรณภูมิ ในสัญญาผู้ถือหุ้นของ บริษัท ไทยเชื้อเพลิงการบิน จำกัด จึงได้กำหนดให้มีการโอนหุ้นให้ ทอท. ในอัตราร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ภายใน 15 วันนับแต่วันที่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท โดย ทอท. ไม่ต้องชำระค่าหุ้นใดๆ ทั้งสิ้น และสิทธิในหุ้นดังกล่าวถือเป็นกรรมสิทธิ์ที่สมบูรณ์ของ ทอท. และการชำระมูลค่าหุ้นในครั้งต่อไป รวมทั้งการเพิ่มทุนใดๆ ในส่วนของ ทอท. บริษัทจะต้องรับภาระชำระเงินให้ในนามของ ทอท. โดยหุ้นและค่าหุ้นที่ชำระแล้วในส่วนดังกล่าวจะตกเป็นสิทธิของ ทอท.
สำหรับผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่ ทอท. ในการอนุญาตให้บริษัท ไทยเชื้อเพลิงการบิน จำกัด เข้าดำเนินการให้บริการระบบส่งน้ำมันอากาศยานผ่านท่อฯ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คือ อัตราร้อยละ 2 ของยอดรายได้ของบริษัทก่อนหักค่าใช้จ่ายใดๆ นับตั้งแต่ปีที่เริ่มเปิดให้บริการ โดยคำนวณเป็นรายปี แต่ทั้งนี้ ผลประโยชน์ตอบแทนโดยรวมจะต้องไม่ต่ำกว่าที่ ทอท. ได้รับจากบริษัทเพื่อเป็นผลประโยชน์ตอบแทนจากการที่ให้เช่าระบบท่อส่งเชื้อเพลิงอากาศยานเพื่อดำเนินการให้บริการเติมเชื้อเพลิงอากาศยานภายในท่าอากาศยานดอนเมือง ทั้งนี้ การคำนวณเงินผลประโยชน์ตอบแทนให้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่เป็นมาตรฐานสากล และเป็นหลักการที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายยอมรับ โดยผลตอบแทนดังกล่าวนี้เป็นรูปแบบผลตอบแทนโดยปกติที่เสนอให้แก่ ทอท. ในฐานะเป็นคู่สัญญาผู้ให้อนุญาต โดยมิใช่ในฐานะผู้ถือหุ้นของบริษัท ไทยเชื้อเพลิงการบิน จำกัด
2.บริษัท เจพี-วัน แอสเซ็ท จำกัด
ถือเป็นบริษัทย่อย ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2547 โดย ณ 31 ธันวาคม 2553 มีทุนจดทะเบียน และทุนชำระแล้วจำนวน 600 ล้านบาท และปัจจุบันโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ประกอบด้วย บริษัทซึ่งถือหุ้นในอัตรา ร้อยละ 92.5 และ บมจ.กรุงเทพประกันภัย ถือหุ้นในอัตราร้อยละ 7.5 โดยการลงทุนในโครงการนี้ของบริษัท เป็นการขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจ ให้ครอบคลุมถึงการขนส่งน้ำมันอากาศยานมายังคลังน้ำมันของบริษัทที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นการขยายฐานรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิม อีกทั้งมีผลเป็นการส่งเสริมความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ทางการตลาดในลักษณะการให้บริการครบวงจร (One Stop Service) ซึ่งคู่แข่งไม่มีความพร้อมที่จะทำได้เช่นบริษัท
บริษัท เจพี-วัน แอสเซ็ท จำกัด ประกอบธุรกิจขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทางระบบท่อส่งน้ำมันใต้พื้นดินจากมักกะสันไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยการวางท่อฝังใต้ดินขนานกับทางรถไฟเข้าสู่คลังน้ำมันของบริษัทที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
3.บริษัท บริการน้ำมันอากาศยาน จำกัด
ถือเป็นบริษัทย่อย ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2529 โดย ณ 31 ธันวาคม 2553 มีทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วจำนวน 120,000 บาท และโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ประกอบด้วย บริษัทซึ่งถือหุ้นในอัตราร้อยละ 83.33 และบมจ.ปตท. ซึ่งถือหุ้นในอัตราร้อยละ 16.67
บริษัท บริการน้ำมันอากาศยาน จำกัด ประกอบธุรกิจเติมน้ำมันให้แก่อากาศยาน (Intoplane) ซึ่งเป็นการรับเหมาเฉพาะแรงงาน โดยเริ่มแรกจะเป็นการรับจ้างบริษัทเติมน้ำมันเชื้อเพลิงให้แก่สายการบิน ต่อมา
ภายหลังบริษัทมีนโยบายดำเนินงานด้านเติมน้ำมันเอง บริษัท บริการน้ำมันอากาศยาน จำกัด จึงไม่มีการประกอบกิจการใดๆ ตั้งแต่ปี 2536 จนถึงเดือนกันยายน 2544 ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2544 ได้เริ่มดำเนินการรับจ้างบริษัท ให้บริการเติมน้ำมันอากาศยาน ณ ท่าอากาศยานสมุย และท่าอากาศยานสุโขทัย
4.บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด
เป็นบริษัทที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2534 ตามมติคณะรัฐมนตรีตามข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ เพื่อประกอบกิจการด้านการเก็บรักษา และดำเนินการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทางระบบท่อส่งน้ำมันใต้พื้นดินซึ่งสร้างขนานกับทางรถไฟ มีระยะทางรวม 69 กิโลเมตรจากโรงกลั่นน้ำมันบางจากผ่าน คลังน้ำมันเชลล์ และเชฟรอนที่ช่องนนทรี ไปยังคลังน้ำมันของบริษัทที่ท่าอากาศยานดอนเมือง และไปสิ้นสุดที่คลังน้ำมันของบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด ที่อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นศูนย์รวมการรับและจ่ายน้ำมันเพื่อกระจายสู่ภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย โดยวัตถุประสงค์หลักในการจัดตั้งบริษัท คือ เพื่อลดผลกระทบจากมลภาวะที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและการจราจรติดขัดในเขตกรุงเทพมหานคร อันเนื่องมาจาการขนส่งน้ำมันจากการขนส่งอื่นๆ เช่น รถบรรทุก และรถไฟ ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วจำนวน 1,592 ล้านบาท ณ 31 ธันวาคม 2553 โครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ประกอบด้วย
การประกอบธุรกิจของ บริษัทแม่ และบริษัทลูก
หมายเหตุ
1.ระบบน้ำมันอากาศยานผ่านท่อ 2.คลังน้ำมันอากาศยาน 3.ระบบเติมน้ำมันอากาศยาน ![]() |
Update การเข้าซื้อหนี้จากKBANK
หมายเหตุ บริษัทขนส่งน้ำมันทางท่อ สัดส่วนไม่ครบ 100% เพราะ List แต่ชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่เท่านั้นส่วนผู้ถือหุ้นอื่นดังรูปข้างล่าง
ผู้ถือหุ้นในบริษัท 4.(บริษัทขนส่งน้ำมันทางท่อจำกัด) รูปด้านล่าง
โครงสร้างรายได้
ลูกค้า10 อับดับแรก ของเดือน ธันวาคม
ผู้ใช้บริการ
การจ่ายปันผล
การเติมน้ำมันของบริษัท
เทคโนโลยีด้านบริการของบาฟส์
บาฟส์ เป็นสุดยอดแห่งเทคโนโลยีและเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะแห่งงานบริการโดยเราได้ทำการ ศึกษาและออกแบบร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีระบบการเติมน้ำมันเชื้อ เพลิงอากาศยาน สร้างสรรค์ระบบการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานที่ดีเยี่ยม และเพื่อให้เป็นมาตรฐานสูงสุดในด้านการบริการ บริษัทฯ จึงเน้นระบบการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานตาม Guideline for Aviation Fuel Quality Control and Operating Procedures ที่ออกโดย Joint Inspection Group (JIG) และได้รับการสนับสนุนจาก International Air Transport Association (IATA) ซึ่งเป็นมาตรฐานของบริษัทน้ำมันทั่วโลก
ปัจจุบัน บริษัทฯ ให้บริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานด้วยระบบ Hydrant Pipeline Network ที่สนามบินดอนเมืองซึ่งถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีการให้บริการชั้นสูงที่มีขีด ความสามารถในด้านการสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานที่ใช้ในการเติมให้แก่ อากาศยาน ทั้งเที่ยวบินภายในและภายนอกประเทศ เที่ยวบินขนส่งสินค้าและเที่ยวบินของหน่วยราชการ
สำหรับ สนามบินสุวรรณภูมิ บริษัทฯ ได้พัฒนาระบบ Hydrant Pipeline Network ให้ก้าวไปอีกขั้นโดยการนำนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีระบบเติมน้ำมันเชื้อเพลิง อากาศยานมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการเติมน้ำมันเชื้อ เพลิงอากาศยานให้สูงยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มศักยภาพของสนามบินสุวรรณภูมิเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางอากาศ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทุก ขั้นตอนของการให้บริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานทั้งที่สนามบินดอนเมือง และที่สนามบินสุวรรณภูมิอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดของศูนย์ควบคุม ทั้งที่อยู่ฝั่งคลังน้ำมัน (Control Room) และฝั่งลานจอด (Flight Control Room) เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการให้บริการสูงสุด
ในส่วนของระบบบริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานของบริษัทฯ นี้ จะประกอบไปด้วยส่วนที่สำคัญ 5 ส่วน คือ
- ท่อส่งน้ำมันเข้าคลัง (Jet A-1 Supply Pipelines)
คลังน้ำมันของบริษัทฯ ออกแบบให้สามารถรับน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานประเภท Jet A-1 ได้จาก 2 แหล่ง ทั้งนี้เพื่อให้แน่ใจได้ว่าจะมีปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานอย่างเพียงพอ ต่อความต้องการของสนามบินทั้งที่สนามบินดอนเมืองและที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยน้ำมันจะส่งผ่านทางท่อที่ออกแบบสำหรับน้ำมัน Jet A-1 โดยเฉพาะ - คลังเก็บรักษาน้ำมัน (Aviation Fuel Depot)
หน้าที่ของคลังน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน คือ การรับและเก็บสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานพร้อมทั้งสูบจ่ายน้ำมันไปยัง สนามบินโดยผ่านระบบ Hydrant Pipeline Network น้ำมันที่เก็บจะถูกควบคุมคุณภาพให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ก่อนที่จะจ่ายไปยังสนามบินสิ่งที่เจือปนรวมถึงน้ำจะถูกกรองออกจากน้ำมัน Jet A-1 เพื่อรับรองว่าน้ำมันนั้น ใส บริสุทธิ์ ปราศจากสิ่งเจือปน (Clear & Bright)
คลังน้ำมันบริษัทฯ สนามบินสุวรรณภูมิในเบื้องต้นประกอบไปด้วยถังเก็บรักษาจำนวน 4 ถัง ความจุรวม 60 ล้านลิตร มีระบบจ่ายน้ำมันอัตโนมัติประกอบไปด้วย hydrant pump จำนวน 9 ชุด สามารถจ่ายน้ำมันได้ชั่วโมงละ 3,632 ลูกบาศก์เมตร โดย hydrant pump ทั้ง 9 ชุดสามารถแปรผันความเร็วได้ตลอดเวลา (variable speed drive) ซึ่งใช้เทคโนโลยี inverter เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานของสนามบิน สุวรรณภูมิและเป็นการช่วยประหยัดพลังงานอีกทาง- a) ระบบควบคุมการรับ-จ่ายโดยอัตโนมัติ (Process Automation and Control System)
บริษัทฯ ใช้ระบบควบคุมการรับ-จ่ายโดยอัตโนมัติชั้นสูงที่เรียกว่า Distributed Control System (DCS) ซึ่งสามารถควบคุมการเปิด-ปิด วาล์วรับ-จ่ายน้ำมัน ควบคุมปั๊มรับ-จ่ายน้ำมันผ่านจอคอมพิวเตอร์ได้โดยสะดวกและรวดเร็วขึ้น อีกทั้งยังสามารถเก็บข้อมูลการทำงานของอุปกรณ์ไว้ใน history ทำให้สะดวกต่อการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง เพื่อค้นหาความผิดปกติของระบบ
b) ระบบวัดปริมาณน้ำมันในถังอัตโนมัติ (Automatic Tank Gauging)
ระบบนี้ทำหน้าที่วัดค่าที่สำคัญๆ ของน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานด้วยความแม่นยำและเที่ยงตรงสูง โดยจะเชื่อมต่อกับระบบ DCS ทำให้สามารถอ่านค่าความหนาน่น ระดับ และอุณหภูมิน้ำมันได้ในเวลาเดียวกัน
c) ระบบดับเพลิง (Fire Fighting Facilities)
คลังน้ำมันของบริษัทฯ ได้ออกแบบและติดตั้งระบบดับเพลิงที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งเตรียมพร้อมไว้สำหรับรับมือกับเหตุการณ์เพลิงไหม้ได้หลากหลายรูปแบบ โดยอาศัยอุปกรณ์ที่เพียบพร้อม เช่น ปืนฉีดน้ำขนาดใหญ่ ระบบลดความร้อนของผิวถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบฉีดโฟมดับเพลิงเข้าถัง และระบบฉีดโฟมในลานถัง ซึ่งทุกระบบมีความพร้อมในการใช้งานได้ทันที
d) ระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (Closed Circuit Television System)
พื้นที่โดยรอบคลังฯ ทั้งบริเวณอาคารสำนักงาน และบริเวณถังเก็บน้ำมัน ได้มีการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่มีการบันทึกภาพถ่ายคุณภาพสูงตลอด 24 ชั้วโมง โดยสามารถเก็บบันทักไว้ได้นานถึง 1 เดือน ดังนั้นกรณีหากเกิดเกตุการณ์ต่างๆ จึงสามารถเรียกข้อมูลที่บันทึกไว้กลับมาดูได้อีกครั้ง
e) ระบบตรวจจับการบุกรุกแนวรั้ว (Perimeter Intrusion Detection System)
นอกจากระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดแล้ว บริษัทฯ ได้ติดตั้งระบบตรวจจับการบุกรุกแนวรั้วประเภทใยแก้วนำแสง โดยระบบจะบอกตำแหน่งการบุกรุกเพี่อให้เจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยสามารถเข้าไป จัดการกับผู้บุกรุกได้ทันเวลา - สถานีบริการย่อยฝั่งลานจอด (Into-Plane Service Facility)
Into-plane Service Facility เป็นศูนย์ควบคุมและบริหารงานให้บริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานในเขต สนามบิน งานเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานทุกประเภทจะถูกจัดการผ่านศูนย์ควบคุม (flight control)
สถานีบริการย่อยฝั่งลานจอดประกอบไปด้วยอาคารสำนักงานฝ่ายลานจอด โรงซ่อมบำรุงรถเติมน้ำมัน ถังเก็บน้ำมันใต้ดินพร้อมปั๊มสูบจ่าย จุดเติมน้ำมันให้กับรถเติมน้ำมันอากาศยานประเภท refueller และสถานีทดสอบอุปกรณ์เติมน้ำมันอากาศยาน (test & calibration station) - ระบบท่อจ่ายน้ำมันไปยังสนามบิน (Hydrant Pipeline Network)
ระบบ hydrant pipeline network เป็นเครือข่ายท่อส่งน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแรงดันสูงที่ฝังอยู่ใต้ดินและ กระจายไปทั่วใต้บริเวณลานจอด น้ำมัน Jet A-1 จากคลังจะถูกสูบจ่ายโดย hydrant pump ผ่านระบบ hydrant pipeline ไปยังหลุมจอดแต่ละหลุม
สนามบินดอนเมืองมีพื้นที่บริการระบบ hydrant ทั้งหมด 96 หลุมจอด ส่วนที่สนามบินสุวรรณภูมิมี 119 หลุมจอด - รถเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน (Aircraft Refuelling Vehicles)
ขั้นตอนสุดท้ายที่จะนำน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานไปสู่อากาศยานนั้น คือ รถเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ รถ dispenser และรถ refueller รถบริการทั้ง 2 ชนิด สามารถให้บริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานให้แก่ทุกสายการบินได้ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยความเอาใจใส่อย่างเข้มงวดในทุกขั้นตอนจึงทำให้บริษัทฯ สามารถกำหนดและควบคุมคุณภาพของน้ำมันทุกหยดที่ใช้เติมแก่อากาศยาน ใส บริสุทธิ์ ปราศจากสิ่งเจือปน (Clear and Bright) ตรงตามมาตรฐานและความต้องการ จนเป็นที่เชื่อถือและยอมรับโดยทั่วไปว่าน้ำมันทุกหยดที่เติมแก่อากาศยานนั้น เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ตลอดจนการบริการที่ดีได้มาตรฐาน ทั้งทันสมัยถูกต้อง รวดเร็ว และปลอดภัย จึงเป็นที่มาของการได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐาน ISO9001:2000 จากสถาบันบูโรเวอริตัส (BVQI) ที่ทั่วโลกต่างยอมรับโดยทั่วกัน ด้วยความมุ่งมั่นที่จะให้การบริการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้นำระบบ computerized refuelling management มาใช้เพื่อความถูกต้องแม่นยำและให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยระบบประกอบไปด้วย- a) ระบบสำนักงาน (Office System)
ระบบสำนักงานซึ่งติดตั้งอยู่ในสถานีย่อยฝั่งลานจอดมีหน้าที่จัดเตรียมข้อมูล ควบคุมสั่งการให้บริการของรถเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน รวมไปถึงการบริหารกำลังคนและอุปกรณ์ให้เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำมันเชื้อ เพลิงอากาศยานของสายการบินต่างๆ ในสนามบิน
b) ระบบบนรถให้บริการ (Vehicle Information System)
ระบบบนรถให้บริการสามารถที่จะรับข้อมูลการบริการได้ 2 ทาง คือ USB flash drive หรือโดยใช้เทคโนโลยีการสื่อสารแบบไร้สาย (wireless communications)

ไม่รู้ยังมีใครดูตัวนี้อยู่มั่ง แต่แนวโน้มหลังน้ำท่วมดูกลับมาดีล่ะครับ
ตอบลบBLS.AOT: สถิติการจราจรทางอากาศฟื้นตัวแข็งแกร่งในเดือนธ.ค.
เมื่อวานนี้ AOT รายงานตัวเลขการจราจรทางอากาศสำหรับเดือนธ.ค. ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจากเดือนก่อนหลังสิ้นสุดเหตุการณ์น้ำท่วมกรุงเทพฯ จำนวนผู้โดยสารรวมอยู่ที่ 5,922,548 คน เพิ่มขึ้น 19% YoY และ 25% MoM ในขณะที่จำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 6% YoY และ 13% MoM มาอยู่ที่ 39,968 เที่ยวบิน จำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศลดลง 4% YoY (แต่เพิ่มขึ้น 29% MoM) ในขณะที่จำนวนผู้โดยสารภายในประเทศเพิ่มขึ้น 11% YoY และ 20% MoM
ที่ กผ.031/2555
ตอบลบ10 กุมภาพันธ์ 2555
เรื่อง การลงทุนในบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/2554 เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2554 มีมติอนุมัติในหลักการที่
จะลงทุนเพิ่มในบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT) ซึ่งบริษัทเป็นผู้ถือหุ้นอยู่เดิมในสัดส่วนร้อยละ 16.67 โดย
อนุมัติให้บริษัทหรือบริษัทย่อย (กลุ่มบริษัท) ซื้อหนี้ของ FPT ในวงเงินไม่เกิน 850 ล้านบาท และหุ้นบุริมสิทธิใน
ราคาหุ้นละไม่เกิน 0.10 บาท จากกลุ่มสถาบันการเงิน เนื่องจากพิจารณาเห็นว่า FPT เป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการ
ดำเนินธุรกิจขนส่งน้ำมันทางท่อ และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว แม้ว่าใน
ปัจจุบัน FPT มีภาระหนี้สินเป็นจำนวนมากจากการลอยตัวของค่าเงินบาทในปี 2540 ก็ตาม แต่เพื่อเป็นการลดความ
เสี่ยงจากการหยุดชะงักของธุรกิจขนส่งน้ำมันทางท่อซึ่งถือเป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องและมีความสำคัญกับการให้บริการ
อากาศยานของบริษัททั้งที่ท่าอากาศยานดอนเมืองและท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คณะกรรมการบริษัทจึงอนุมัติให้เข้า
ลงทุนใน FPT เพิ่มเติม โดยได้มอบหมายให้คณะกรรมการบริหารความเสี่ยงเป็นผู้พิจารณารายละเอียดเงื่อนไขต่างๆ
และให้กรรมการผู้จัดการเป็นผู้มีอำนาจในการดำเนินการภายใต้กรอบรายละเอียดและเงื่อนไขที่คณะกรรมการ
บริษัท และคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงกำหนด นั้น
บัดนี้ รายการดังกล่าวมีความชัดเจนแล้ว บริษัทจึงขอแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียด ดังนี้
1. รายละเอียดการซื้อหนี้และหุ้นบุริมสิทธิ
ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2554 กลุ่มบริษัทได้ดำเนินการซื้อหนี้ของ FPT จากกลุ่มเจ้าหนี้ของ FPT จากกลุ่ม
สถาบันการเงินเป็นจำนวนยอดภาระหนี้คงเหลือประมาณ 1,717 ล้านบาท ในราคาประมาณ 738 ล้านบาท หรือคิด
เป็นอัตราส่วนลดเฉลี่ยร้อยละ 57 ของยอดภาระหนี้คงเหลือ
นอกจากนี้ ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2554 กลุ่มบริษัทได้ดำเนินการซื้อหุ้นบุริมสิทธิของ FPT จำนวน
5,147,314 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 32.33 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ในราคาหุ้นละ 0.10 บาท ทำให้ปัจจุบันกลุ่มบริษัท
มีสัดส่วนการถือหุ้นใน FPT จากจำนวนร้อยละ 16.67 เป็น
2. รายละเอียดการปรับโครงสร้างหนี้ของ FPT
ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2554 บริษัทในฐานะเจ้าหนี้ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอให้ฟื้นฟู
กิจการของ FPT ซึ่งในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2555 ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของ FPT และตั้ง
บริษัท เทรเชอร์ สเปเชี่ยลตี้ จำกัด เป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ
3. ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
(1) ลดความเสี่ยงจากการหยุดชะงักของธุรกิจขนส่งน้ำมันทางท่อ ซึ่งธุรกิจดังกล่าวเป็นธุรกิจที่มีความ
เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจของบริษัท และมีความสำคัญต่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ
(2) สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทอย่างยั่งยืน โดยบริษัทคาดว่ากระบวนการฟื้นฟูกิจการ FPT จะเสร็จสิ้นใน
ปลายปี 2555 ซงึ่ จะทำให้ FPT กลับมาเป็นกิจการที่มีฐานะการเงินที่มั่นคง สามารถสร้างกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทต่อไป
ทั้งนี้ ขนาดของรายการดังกล่าวไม่เข้าข่ายรายการที่ต้องรายงานสารสนเทศ ตามหลักเกณฑ์การทำรายการ
ที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สินของบริษัทจดทะเบียนและไม่ใช่รายการที่เกี่ยวโยง
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และหากมีความคืบหน้าของการฟื้นฟูกิจการของ FPT บริษัทจะแจ้งให้ทราบ
ต่อไป